
“มันน่าจะต้องมีเหตุผลที่คิดไม่ถึงแน่ๆ…” ว่าทำไมไลน์กลุ่มที่มีสมาชิก หรือจำนวนเพื่อนในกลุ่มเป็นจำนวนมาก แต่เอาเข้าจริงมีคนที่เข้ามาพูดคุยหรือทักทายกันเพียงไม่กี่คน และส่วนใหญ่ก็เป็นคนเดิมๆนั่นแหละ แบบนี้ไม่นานห้องก็จะร้าง ดูวังเวง น่าอึดอัดใจ สุดท้ายก็ต้องปิดห้องไปในที่สุด.
โดยเฉพาะไลน์กลุ่มเพื่อน ที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อการพูดคุย นัดแนะพบปะสังสรรค์หรืออะไรก็แล้วแต่ มักประกอบไปด้วยกลุ่มของเพื่อนจากสถานศึกษาเดียวกัน หรือกลุ่มของเพื่อนที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องมีกลุ่ม มีก๊วนของเพื่อนๆ ซึ่งก็อาจสนิทกันเป็นพิเศษ 2คนบ้าง 3คนบ้าง หรือบางคนที่ไม่เคยมีกลุ่มมีก๊วนกับใครเค้าเลย ซึ่งพอเข้ามาอยู่ในกลุ่มไลน์เดียวกัน ย่อมเกิดการแบ่งแยกการพูดคุยกันเป็นธรรมดา จนสุดท้ายก็อาจกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการห้องร้าง และปิดห้องไปในที่สุด
เรามาลองสำรวจกันว่า การทำให้กลุ่มไลน์พังได้นั้น มีเทคนิคหรือสาเหตุสำคัญๆอย่างไรบ้าง
-
สวัสดีทักทายด้วยรูปภาพที่แชร์มา
จะเห็นว่าเป็นความนิยมในหมู่ของไลน์กลุ่มอย่างแพร่หลาย อาจเป็นภาพวิว ภาพดอกไม้ ภาพธรรมมะหรือภาพหญิงสาวแนวเซ็กซี่ หรือภาพประเภท สวัสดีวันจันทร์ อังคาร พุธ เรื่อยไป อันที่จริงแล้วผู้ส่งล้วนมีเจตนาดีทั้งสิ้น เพราะต้องการกล่าวทักทายกับเพื่อนๆในกลุ่ม ซึ่งก็ยังดีกว่าอีกหลายๆคนที่ไม่เคยเข้ามาทักทายกันบ้างเลย แต่ครับแต่!! รู้หรือไม่ว่าการส่งรูปภาพประเภทนี้เป็นการทักทายในลักษณะแบบปลายปิด นั่นคือส่งแล้วก็จบกันไป รูปภาพประเภทนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความน่าสนใจอะไรที่จะสามารถกระตุ้นการสนทนา หรือทำให้เพื่อนๆคนอื่นรู้สึกสนใจ และเข้ามาทักทายหรือพูดคุยกันต่อไปได้
ลองเปลี่ยนมาส่งเป็นสติ้กเกอร์ที่ในไลน์ก็มีให้อยู่แล้ว ทั้งของฟรีและแบบที่ต้องซื้อ สติ้กเกอร์ไลน์พวกนี้ เจตนาสร้างขึ้นก็เพื่อกระตุ้นการพูดคุย แม้แต่สติ๊กเกอร์คำสั้นๆว่า สวัสดี, Hi, Morning, หรือจะแค่ตัวการ์ตูนน่ารักๆซักตัว เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ห้องมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้แล้วนะครับ ไม่เชื่อลองดู และถ้าหากใช้การพิมพ์คำทักทายลงไปด้วยตนเองก็จะช่วยทำให้บรรยากาศในกลุ่มดียิ่งขึ้นไปอีก
หรืออาจจะเป็นการส่งรูปที่เราถ่ายด้วยตัวเองในขณะนั้นก็เป็นไอเดียที่ดี จะเป็นวิวหน้าบ้าน ตลาด ปากซอย แก้วกาแฟ หรือขนมที่กำลังกินอยู่ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด แบบนี้จะทำให้เพื่อนๆรู้สึกได้ว่าเราตั้งใจและอยากที่จะเข้ามาทักทายกัน และตัวเราเองก็จะได้รับความรู้สึกมีส่วนร่วมกับกลุ่มเพื่อนจริงๆ ถึงแม้ในบางครั้งจะไม่มีการตอบรับหรือการโต้ตอบใดๆเกิดขึ้น แต่จงรู้ไว้เถอะว่า เพื่อนๆในกลุ่มเค้ารู้สึกได้ถึงเจตนาและความตั้งใจของเรา แบบนี้ต่อไปห้องจะไม่เงียบ และเพื่อนคนอื่นๆที่เคยแค่เปิดเข้ามาเพื่อลบการแจ้งเตือนตัวแดงๆให้มันหายไปเท่านั้น ก็กล้าที่จะเข้ามาทักทายกัน
-
ใช้การ Reply หรือ @ กันบ่อยๆ
หลังจากทึ่แอพไลน์เพิ่มความสามารถในการสนทนามากขึ้น พวกเราหลายคนพยายามใช้อ๊อพชั่นนี้กันจนพร่ำเพรื่อ โดยหารู้ไม่ว่ามันมีผลต่อความรู้สึกของทั้งกลุ่ม การใช้ Reply หรือสัญลักษณ์ @ นั้น เป็นการระบุและชี้ไปที่คู่สนทนาของตนโดยเฉพาะเจาะจง ทำให้กลุ่มมองไปว่าคุณต้องการคุยกันแค่กลุ่มเล็กๆเพียง 2-3 คน ซึ่งในบางครั้งมันก็อาจมีความจำเป็นจริงๆ แต่…
แต่การทำเช่นนี้บ่อยเกินไปจนเคยชิน จะทำให้กลุ่มไลน์นั้นรู้สึกเหมือนไม่ใช่กลุ่ม กลายเป็นการพูดคุยกันระหว่างคนสองสามคนภายในกลุ่มใหญ่ที่มีสมาชิกมากกว่าสิบคน ใช่ครับที่ว่าเราสนิทกันแค่นี้ คนอื่นๆไม่ค่อยได้เจอกันหรือพูดคุยกัน ตอนเรียนหรือทำงานก็อยู่กันคนละกลุ่ม ก็เลยไม่รู้จะไปคุยอะไร ถ้าเป็นแบบนี้ควรใช้ไลน์ส่วนตัวนัดแนะพูดคุยกันน่าจะดีกว่า ทำให้คนที่เข้ามาปกติอยู่แล้วก็อาจเกรงใจหรือไม่รู้ว่าจะเข้าไปแทรกหรือเปิดประเด็นต่อไปอย่างไรดี คงไม่ต้องไปพูดถึงเพื่อนที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มอยู่แล้ว ยิ่งทำให้พวกเค้าเมินห้องนี้มากขึ้นไปอีก
ลองแบบนี้ดูไม๊ สำหรับคนที่อยากจะคุยกับเพื่อนๆ พยายามหาคำถามที่ไม่ต้องชี้ไปที่ใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง เช่น
“วันนี้ใครไปทำงานสายบ้าง” หรือ “ที่ไหนฝนตกแล้วบ้าง” หรือ “ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยมาก อยู่ตรงไหนใครรู้บ้าง”
ผมว่าก็น่าจะดีกว่าแบบด้านล่างนี้แน่นอน
“สมชาย วันนี้ไปทำงานสายหรือป่าว?” หรือ “@สมชาย ที่บ้านฝนตกป่าววะ” หรือ “ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยว่ะ @สมชาย“
-
คุยกันเองระหว่างเพื่อนที่สนิทสนมกันมาก่อน
จากที่ได้เกริ่นไปแล้วในตอนต้นว่า ทุกคนต่างก็มีกลุ่ม มีก๊วนกันมาก่อนทั้งสิ้น อาจเป็น 2คน 3คน หรือ 4-5 คน แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในไลน์กลุ่มเดียวกัน ที่มีเพื่อนๆอยู่ในนั้นเป็นหลักสิบคน แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับห้องเรียนหรือที่ทำงาน ที่พวกเราจำเป็นต้องเข้ามาอยู่รวมกัน การแบ่งกลุ่มแบ่งฝ่ายจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นธรรมดา